วันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2552
วันสตรีสากล
แต่อย่างไรก็ตามอีก 3 ปีต่อมา คือ ในวันที่ 8 มีนาคม ค.ศ.1910 ข้อเรียกร้องของเหล่าบรรดากรรมกรสตรีก็ประสบความสำเร็จ เมื่อตัวแทนสตรีจาก 18 ประเทศ เข้าร่วมประชุมสมัชชาสตรีสังคมนิยม ครั้งที่ 2 ณ เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ที่ประชุมได้ประกาศรับรองข้อเรียกร้องของบรรดากรรมกรสตรี โดยให้ลดเวลาทำงานให้เหลือเพียงวันละ 8 ชั่วโมง ศึกษาหาความรู้ 8 ชั่วโมง พักผ่อน 8 ชั่วโมง และกำหนดให้ค่าแรงงานสตรีเท่าเทียมกับค่าแรงงานชาย อีกทั้งยังมีการคุ้มครองสวัสดิการสตรีและแรงงานเด็กอีกด้วย นอกจากนั้นในการประชุมครั้งนั้น ยังได้มีการรับรองข้อเสนอของ คลาร่า เซทคิน ด้วยการประกาศให้วันที่ 8 มีนาคม เป็นวันสตรีสากล
วันสตรีสากลไม่ได้เป็นเพียงวันที่กลุ่มสตรีทั่วโลกร่วมฉลองกันท่านั้น แต่เป็นวันที่องค์กรสหประชาชาติได้ร่วมเฉลิมฉลองด้วย และอีกหลายประเทศได้กำหนดให้วันดังกล่าวเป็นวันหยุดประจำชาติของตน กลุ่มสตรีจากทุกทวีปไม่ว่าจะแตกต่างกันโดยเชื้อชาติ ภาษา วัฒนธรรม เศรษฐกิจ หรือ การเมืองก็ตาม ได้รวมตัวกันเพื่อฉลองวันสำคัญนี้ เพื่อรำลึกถึงความเป็นมาแห่งการต่อสู้อันยาวนาน เพื่อให้ได้มาซึ่งความเสมอภาคความยุติธรรม สันติภาพ และการพัฒนา ผลจากการตัดสินใจของที่ประชุม ณ กรุงโคเปนเฮเกน ทำให้มีการจัดกิจกรรมวันสตรีสากลขึ้นเป็นครั้งแรกในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1911 ในประเทศออสเตรีย เดนมาร์ก เยอรมนี และสวิตเซอร์แลนด์ มีประชาชนทั้งหญิงชายมากกว่า 1 ล้านคน เข้าร่วมการชุมนุมเรียกร้องสิทธิในการทำงาน การเข้ารับการอบรมในวิชาชีพ และให้ยุติการแบ่งแยกในการทำงานในปีถัดมาได้มีการจัดกิจกรรมวันสตรีสากลเพิ่มขึ้นในประเทศฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ และสวีเดน และในปี ค.ศ. 1913 มีการจัดชุมนุมวันสตรีสากลในรัสเซียเป็นครั้งแรก ที่นครเซนต์ปีเตอร์เบอร์ก แม้ว่าจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจขัดขวางก็ตาม วันสตรีสากลได้จัดขึ้นโดยเชิดชูคำขวัญของขบวนการสันติภาพ ทั้งนี้เพื่อต่อต้านสงครามที่กำลังคุกรุ่นอยู่ในยุโรปนับตั้งแต่ปีแรกๆ เป็นต้นมา ความสำคัญของการฉลองวันสตรีสากลได้ทวีมากขึ้น โดยมีสตรีในทวีปแอฟริกา เอเชียและละตินอเมริกา เริ่มร่วมมือกันเพื่อทบทวนความก้าวหน้าของการต่อสู้เพื่อสิทธิที่เท่าเทียมกัน และเพื่อความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งพยายามผลักดันให้มีการตระหนักในเรื่องสิทธิมนุษยชนของสตรีอย่างสมบูรณ์
ประเทศไทยในฐานะประเทศสมาชิกองค์การสหประชาชาติได้แสดงเจตนารมณ์ที่จะปฏิบัติตามพันธสัญญาต่อเวทีโลกที่มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับบทบาทและสถานภาพสตรีโดยได้มีการดำเนินการทั้งในแง่กฏหมาย นโยบาย มาตรการและกิจกรรมต่างๆ ในการส่งเสริมความเสมอภาคหญิงชาย คือ เจตนารมณ์ให้มีความเป็นธรรมเกิดขึ้นในความสัมพันธ์ระหว่างหญิงชายในทุกรูปแบบ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการใช้ การควบคุมทรัพยากร เพื่อให้หลุดจากการกีดกันต่างๆ ให้สตรีได้มีโอกาสรับประโยชน์จากการพัฒนาอย่างเท่าเทียม
นมโรงเรียน



วันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552
วันวาเลนไทน์
วันวาเลนไทน์ มาจากชื่อของนักบุญวาเลนไทน์ (St.Valentine) ผู้ซึ่งมีชีวิตอยู่ใน สมัยกษัตริย์ Claudius (คลอดิอุส) ที่ 2 แห่งกรุงโรม ในสมัยนั้นกษัตริย์ Claudius ออกกฎห้ามไม่ให้มีการแต่งงานในเมืองของพระองค์ เพราะกษัตริย์ทรงต้องการทำศึกสงคราม ดังนั้นทรงต้องการให้ผู้ชายทุกคนไปเป็นทหาร เพราะพระองค์เชื่อว่าถ้าไม่มีการแต่งงานผู้ชายจะหันไปสน ใจกับการรบมากขึ้น แต่นักบุญวาเลนไทน์ก็ได้ขัดบทบัญญัติแห่งกฎหมายของกษัตริย์ ด้วยการเป็นบาทหลวง ในพิธีแต่งงานให้หนุ่มสาวที่ต้องการแต่งงานอย่างลับ ๆ และแล้ววันหนึ่งข่าวการทำพิธีสมรสของนักบุญวาเลนไทน์ก็รู้ถึงหูของพระเจ้าClaudius เข้า พระองค์จึงทรงสั่งทหารไปจับเขาเพื่อนำมาประหารชีวิต

วันอาทิตย์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2552
วันตรุษจีน


- แอปเปิ้ล หมายถึง ความสันติสุข สันติภาพ
- สาลี่ หมายถึง โชคลาภมาถึง (ควรระวังไม่นิยมไหว้บรรพบุรุษและวิญญาณไร้ญาติ)
- ส้มสีทอง หมายถึง ความสวัสดีมหามงคล
- องุ่น หมายถึง ความเพิ่มพูน

- เป็ด หมายถึง สิ่งบริสุทธิ์ ความสะอาด ความสามารถอันหลากหลาย
- ปลา หมายถึง เหลือกินเหลือใช้ อุดมสมบูรณ์
- หมู หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ มีกินมีใช้

- ปลาหมึก หมายถึง เหลือกิน เหลือใช้ (เหมือนปลา)
- บะหมี่ยาวหรือหมี่ซั่ว หรือ ฉางโซ่วเมี่ยน ตามชื่อหมายถึง อายุยืนยาว
- เม็ดบัว หมายถึง การมีบุตรชายจำนวนมาก
- ถั่วตัด หมายถึง แท่งเงิน
- สาหร่ายทะเลสีดำ หมายถึง ความมั่งคั่งร่ำรวย
- หน่อไม้ หมายถึง การอวยพรให้ร่ำรวยผาสุก สิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง คือ เต้าหู้ขาว เนื่องจากสีขาว คือ สีสำหรับงานโศกเศร้า

- ขนมสาลี่ คือ รุ่งเรือง เฟื่องฟู
- จันอับ (จั๋งอั๊บ) หมายถึง ปิ่นโต หมายถึงความหวานที่เพิ่มพูน มีความสุขตลอดไป


การติดฮู้ เป็นธรรมเนียมที่นิยมถือทำในวันตรุษจีน เช่น การติด "ฮู้" หรือยันต์แผ่นใหม่ เพื่อคุ้มครองบ้าน ติด "ตุ้ยเลี้ยง" หรือแผ่นคำอวยพรที่ปากทางเข้าบ้านไหว้เจ้า การไหว้เจ้าเป็นธรรมเนียมประเพณีที่ลูกหลานจีนปฏิบัติสืบทอดกันมา ตามความเชื่อที่จะต้องไหว้เจ้าที่ และไหว้บรรพบุรุษ เพื่อให้เป็นสิริมงคล และนำมาซึ่งความสุข ความเจริญแก่ครอบครัว
วันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2551
10 วิธีเซอร์ไพร้ส์ตัวเอง
Secret จึงขอนำเสนอวิธีเซอร์ไพร้ส์ตัวเอง 10 วิธี เป็นการอุ่นเครื่องให้หัวใจของคุณเปิดกว้างเพื่อคอยต้อนรับสิ่งใหม่ๆ
Wonderful Day!ลองเติมความพิเศษให้ชีวิตของคุณด้วยวันเหล่านี้
-วันสารภาพ ใครๆ ก็เคยทำผิดกันทั้งนั้น ถ้าเคลียร์ได้สักเดือนละเรื่อง คิดดูสิว่าจะสุขใจขั้นขนาดไหน
-วันทำอาหาร สำหรับคนที่ขยาดห้องครัวจนคิดว่า ‘ฉันไม่ได้เกิดมาเพื่อสิ่งนี้’ ลองทำอาหารโดยไม่เปิดตำราดูสิ (แต่ชิมด้วยนะ) คุณอาจค้นพบเมนูเด็ดใหม่ๆ แบบไม่คาดฝัน
-วันไม่พูด นอกจากจะเซอร์ไพร้ส์ในความอดทนของตัวเองแล้ว ความสงบใจยังเพิ่มขึ้นอีกหลายขีด ไม่เชื่อก็ลองดู
2. จัดระเบียบตู้เสื้อผ้า ลองกลับไปเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วสำรวจดูซิว่าคุณต้องใช้เวลาหลายสิบนาทีกว่าจะมิกซ์แอนด์แมตช์เสื้อผ้าสักชุดให้ลงตัว ใช่หรือไม่ ถ้าคำตอบคือ ‘ใช่’ ก็ถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้อง ‘รื้อ พับ จัด เก็บ’เสียที เชื่อเถิดว่า ระหว่างรื้อไปจัดไป คุณจะได้วิธีจับคู่ใหม่ๆ ให้เสื้อผ้าตัวเก่าเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
3. ทักทายคนแปลกหน้า เพื่อฝึกทักษะการเจรจาและการควบคุมอารมณ์ ลองปลุกใจตัวเองให้กล้าหาญ แล้วเดินเข้าไปพูดคุยกับคนที่คุณรู้สึกถูกซะตา ไม่ว่าจะรู้สึกเปิ่น เขิน สั่น หรือหน้าแตกสักแค่ไหน หรือแม้จะถึงกับต้องอุทานในใจว่า ‘ช่างทำไปได้’ แต่สุดท้ายนี้จะเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับตัวคุณเอง เพราะนอกจากจะทำให้คุณมั่นใจขึ้นแล้ว ยังอาจจะได้เพื่อนใหม่แบบไม่รู้ตัวอีกด้วย
อย่าคิดว่าคนไทยหรือคนเอเชียเท่านั้นที่ ‘ขี้อาย’ เพราะผลวิจัยบอกว่า คนอเมริกันเกือบร้อยละ 50 เชื่อว่าเขาเป็นคนขี้อายในขณะที่อีกร้อยละ 40 บอกว่าเคยเป็นคนขี้อายมาก่อน
4. หยุดแวะข้างทางเสียบ้าง หรือลองเปลี่ยนเส้นทางกลับบ้าน เพื่อสำรวจร้านรวงข้างเคียง เปลี่ยนพฤติกรรมจากเป็นลูกค้าขาประจำร้านเดิมทุกเย็นมาเป็นนักชิมสมัครเล่น หรือลองชอปปิ้งในที่ใหม่ๆ ฯลฯ เพียงเท่านี้คุณก็เปลี่ยนบรรยากาศยามเย็นอันแสนธรรมดาให้สดใส่ขึ้นได้แล้ว ที่สำคัญการหมั่นเติมประสบการณ์เล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้จะกระตุ้นให้คุณใกล้ชิดความเป็นไปของสิ่งรอบตัวมากขึ้น
5. แต่งตัวแบบมีคอนเซ็ปต์ แทนที่จะแต่งตัวแบบรีบเร่ง หยิบอะไรได้ก็ใส่อันนั้น ลองคิดสไตล์การแต่งตัวแบบใหม่ๆ หรือมองหาแรงบันดาลใจตามหน้านิตยสาร จากนั้นจับคู่เสื้อผ้าให้เข้ากัน เพียงเท่านี้การเริ่มต้นวันใหม่ของคุณก็คึกคักขึ้นแล้ว รับรองว่าบุคลิกที่เปลี่ยนไปจะสร้างความแปลกใหม่ให้ตัวคุณเองและคนรอบข้างอย่างคาดไม่ถึง
ติดริบบิ้นสวยๆ บริเวณรอยผ่าของกระโปรงตัวเก่า เพียงเท่านี้ก็ได้กระโปรงตัวใหม่เพิ่มขึ้นแล้ว เ
เพ้นต์สีหรือปักตามแบบที่ชอบลงบนยืนส์สีดำตกยุค แค่พันต์ลวดลายหรือปักง่ายๆ นิดๆ หน่อยๆ ก็จะได้ยืนส์เท่ๆ มาใส่ในแบบที่ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร
6. เป็นคนรวยเพื่อน โลกทัศน์ของคุณจะกว้างขึ้นเมื่อได้รู้จักเพื่อนใหม่ ที่จะถ่ายทอดเรื่องราวความคิด และจุดประกายให้ชีวิตของเราได้อย่างคาดไม่ถึง นักท่องเน็ตจำนวนมากเรียนรู้เรื่องราวของประเทศที่เขาสนใจจากเครือข่ายเพื่อนออนไลน์ เช่น MSN-Live hi5 หรือ Facebook เมื่อมีเพื่อนที่รู้ใจมากขึ้น เหตุการณ์ประเภท “ปีนี้เธอบินมาเที่ยวบ้านฉัน ปีหน้าฉันไปเที่ยวบ้านเธอ” ก็จะกลายเป็นเรื่องแสนธรรมดาที่ไม่ต้องฝันกลางวันอีกต่อไป
ฮัลโหลโทร.ฟรี! ไม่ว่าคุณจะอยู่มุมไหนของโลกก็สามารถส่งเสียง (ผ่านไมค์ที่ต่อกับคอมพิวเตอร์) พูดคุยกับใครต่อใครขณะที่กำลังออนไลน์ได้ฟรี เพียงดาวน์โหลดและติดตั้งโบราณ ‘สไกป์’ จาก skype.com
7. ลงทะเบียนเรียนสิ่งที่ชอบ เช่น ทำขนม วาดรูป เล่นดนตรี ฝึกภาษาต่างประเทศ ฯลฯ ในยามว่าง แล้วทักษะต่างๆ ในตัวคุณจะเริ่มฉายแววและสร้างสรรค์ผลงานออกมา จนคุณเองก็อดแปลกใจไม่ได้ว่า ‘ฉันทำสิ่งนี้ได้ด้วยหรือนี่’
ตัวอย่างคอร์สเรียนที่น่าสนใจจากอมรินทร์เทรนนิ่งสำหรับเดือนพฤศจิกายนนี้
สะบัดพู่กันไปกับการวาดภาพสีน้ำ
สนุกกับคอร์สสอนการปลูกเลี้ยงกล้วยไม้สำหรับคนรักสวนมือใหม่
เข้าครัวเรียนรู้วิธีทำอาหารยุโรปเบื้องต้น พัฟฟ์และพายสุขภาพ หรืออาหารมังสวิรัติยอดนิยม
อบรมเรื่องขีดๆ เขียนๆ อย่างเป็นระบบกับคอร์ส “อยากเป็นนักเขียน”
8. อาสาพาว้าว! การบำเพ็ญประโยชน์เพื่อผู้อื่นทำให้รู้สึกอิ่มใจจนต้องร้องว้าว! และแทนที่จะเหนื่อยกายกลับได้แรงใจกลับบ้านไปเต็มๆ ถ้าไม่เชื่อต้องลองอาสากันดูสักที ด้วยการหมั่นติดตามข่าวสารความต้องการอาสาสมัครจากแหล่งต่างๆ โดยเฉพาะในคอล้มน์ White-board ของ Secret นี่แหละ มีให้เลือกเพียบ!
9. ให้รางวัลชีวิต สิ่งของบางอย่างอาจมีราคาสูงจนแอบคิดว่า ‘คนอย่างฉันไม่มีทางซื้อได้’ แต่ถ้าคุณตั้งใจเก็บออมและมีความพยายามมากพอ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะราคาแพงแค่ไหน คุณก็จะเป็นเจ้าของมันได้แน่นอน ลองเริ่มด้วยการหาของขวัญไว้เซอร์ไพร้ส์ตัวเองสัก 1-2 อย่างในแต่ละปี เช่น คอมพิวเตอร์ แพ็คเกจทัวร์ในฝัน หรือการทำงานที่ตนรัก ฯลฯ แม้จะต้องรอนานหน่อยกว่าจะได้ว้าว! แต่รับรองว่าคุ้มค่าแน่นอน
10. ใช้ชีวิตให้ช้าลง เปลี่ยนจากใช้ลิฟต์เป็นบันไดเปลี่ยนจากการใช้รถเป็นเดินบ้าง หัดงีบหลับในยามบ่ายหรือทำกับข้าวรับประทานเอง ฯลฯ เพราะการให้เวลามากขึ้นกับกิจกรรมต่างๆ จะทำให้คุณมองเห็นสิ่งรอบตัวชัดเจนขึ้น และสามารถค้นพบความสวยงามที่ซ่อนอยู่ในทุกสิ่งรอบตัว ซึ่งบางทีอาจอยู่ใกล้จนคุณต้องแปลกใจ
แม้จะทำแล้วไม่สำเร็จหรือเซอร์ไพร้ส์น้อยกว่าที่คิด แต่แค่เพียงคุณเปิดใจและลงมือก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่งดงามแล้ว ดังที่ แลสส์ บราวน์ นักพูดเพื่อสร้างแรงบันดาลใจชาวอเมริกันกล่าวไว้ว่า ‘จงตั้งเป้าหมายไว้ที่ดวงจันทร์ เพราะแม้จะไปไม่ถึง คุณก็ยังอยู่ท่ามกลางดวงดาว’ (Shoot for the moon, even if you miss’ll land among the stars)
วิธีเช็ดเส้นผมที่สระมาใหม่ ๆ ให้แห้งไว ๆ:-


ใช้เวลาน้อยที่สุด...เป่าผมที่เปียกน้ำให้แห้งไวๆ ด้วยผ้าขนหนูที่แห้งนั้นสามารถอมน้ำได้เป็นอย่างดี และตามที่เคล็ดลับ วิธีนี้ของเราได้บอกให้ใช้ผ้าขนหนูแห้งอีกผืนวางลงไปบนเส้นผมที่เปียกน้ำ อีกครั้ง แล้วค่อยให้ใช้ไดร์เป่าผม เป่าลงไปนั้น...ด้วยผ้าขนหนูจะช่วยซับน้ำ ขึ้นมาไว้ที่ตัวผ้า และไอความร้อนจากไดร์เป่าผมที่อังไปบนตัวผ้านั้นจะช่วยเร่งให้ น้ำที่ซับขึ้นมาอยู่บนผ้านั้นระเหยออกไปได้เร็วกว่าปกติอีกด้วย จึงมีสามารถที่จะ ทำให้ผมที่เปียกน้ำนั้นแห้งเร็วกว่าปกตินั่นเองค่ะ...ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมเส้นผมจึงไม่ เสียนั้น ก็เป็นด้วยเพราะว่า..... ไอความร้อนจากไดร์เป่าผม นั้นไม่ผ่านไปถึงตัวเส้นผมแต่โดยตรงจึงไม่สามารถ ทำให้เส้นผมเสียแห้งกรอบได้เลยสักนิดว่าอย่างนั้น ... ...มีข้อควรระวังนิดหน่อยก็ตรงที่ว่าเวลาเป่าไดร์ไปบนผ้าขนหนูแล้วจำเป็น ที่จะต้องใช้มือคอยขยี้ไปบนผ้าขนหนูให้ทั่วด้วยนั้น ถ้าไดร์มีความร้อนมากเกินไป อาจเกิดอันตรายได้ ก็ให้ปรับระดับความร้อนให้ต่ำหน่อยก็ดีค่ะ....
เกร็ดความรู้
